
แนวข้อสอบ กฎ ก.ตร. ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง
พ.ศ. ๒๕๔๗
1. กรณีใดที่ต้องทำการสืบสวนข้อเท็จริง
ก. ผู้บังคับบัญชามีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัย
ข. ส่วนราชการอื่นหรือหน่วยงานอื่นแจ้งมาให้ทราบว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยหรือสงสัยกระทำผิดวินัย
ค. กรณีอื่นๆ ที่ผู้บังคับบัญชาหรือจเรตำรวจเห็นควรให้มีการสืบสวนข้อเท็จจริง
ง. ทุกข้อมีกล่าวมาต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริง
ตอบ ง. ทุกข้อมีกล่าวมาต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริง
ข้อ ๔ ภายใต้บังคับ ข้อ ๒ กรณีที่ควรทำการสืบสวนข้อเท็จจริง ได้แก่
(๑) ผู้บังคับบัญชามีเหตุอันควรสงสัยว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัย
(๒) มีผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยโดยผู้ร้องเรียนนั้นได้แจ้งชื่อและที่อยู่ของตนเองเป็นที่แน่นอน พร้อมทั้งระบุพฤติการณ์แห่งกรณีที่กล่าวหาว่าข้าราชการตำรวจกระทำผิดวินัยนั้น
(๓) ส่วนราชการอื่นหรือหน่วยงานอื่นแจ้งมาให้ทราบว่าข้าราชการตำรวจในบังคับบัญชาผู้ใดกระทำผิดวินัยหรือสงสัยกระทำผิดวินัยฯลฯ
2. การประชุมกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้อใดกล่าวถูก
ก. ต้องมีประธานเข้าร่วมประชุมด้วยไม่มีข้อยกเว้น
ข. หากประธานไม่สามารถมาประชุมได้ ให้รองนายกฯ เข้ามาประชุมแทนได้
ค. นายกฯ สามารถมอบอำนาจให้ใครมาเป็นประธานก็ได้
ง. หากประธานไม่สามารถมาประชุมได้ ให้กรรมการที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่แทน
ตอบ ง. หากประธานไม่สามารถมาประชุมได้ ให้กรรมการที่ประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่แทน
การประชุมคณะกรรมการสืบสวนต้องมีประธานกรรมการอยู่ร่วมประชุมด้วย แต่ในกรณีจำเป็นที่ประธานกรรมการไม่สามารถเข้าประชุมได้ ให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่แทน
3. ในกรณีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดหรือต้องรับผิดในคดีที่เกี่ยวกับเรื่องที่สืบสวน ถ้าคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฎตามคำพิพากษาได้ความประจักษ์ชัดอยู่แล้ว จึงถือเอาคำพิพากษานั้นเป็นพยานหลักฐานโดยไม่ต้องสืบสวน แต่ทั้งนื้ทั้งนั้นคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนต้องทำอย่างไร
ก. ไม่ต้องดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
ข. แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาตามที่ปรากฎในคำพิพากษาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ
ค. ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาคนปัจจุบันดำเนินการแจ้ง
ง. ทำรายงานและสรุปคดี
ตอบ ข. แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาตามที่ปรากฎในคำพิพากษาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ
ข้อ ๒๘ ในกรณีที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดหรือต้องรับผิดในคดีที่เกี่ยวกับเรื่องที่สืบสวน ถ้าคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนเห็นว่าข้อเท็จจริงที่ปรากฎตามคำพิพากษาได้ความประจักษ์ชัดอยู่แล้ว ให้ถือเอาคำพิพากษานั้นเป็นพยานหลักฐานโดยไม่ต้องสืบสวนต่อไปได้ แต่ต้องแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและแจ้งข้อกล่าวหาและสรุปพยานหลักฐานที่สนับสนุนข้อกล่าวหาตามที่ปรากฎในคำพิพากษาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ ทั้งนี้ ให้นำข้อ ๑๘ วรรคสอง วรรคสาม วรรคสี่ วรรคห้า วรรคหก และวรรคเจ็ด มาใช้บังคับโดยอนุโลม
4. การประชุมกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงต้องมีกรรมการสืบสวนมาประชุมไม่น้อยกว่ากี่คน
ก. ไม่น้อยกว่าสามคน
ข. ไม่น้อยกว่าห้าคนและไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสืบสวนทั้งหมด
ค. ไม่น้อยกว่าสี่คนและไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสืบสวนทั้งหมด
ง. ไม่น้อยกว่าสามคนและไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสืบสวนทั้งหมด
ตอบ ง. ไม่น้อยกว่าสามคนและไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสืบสวนทั้งหมด
การประชุมคณะกรรมการสืบสวนตาม ข้อ ๑๘ และ ข้อ ๓๐ ต้องมีกรรมการสืบสวนมาประชุมไม่น้อยกว่าสามคนและไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการสืบสวนทั้งหมด
5. การสืบสวนข้อเท็จจริง มีความหมายที่ถูกต้องตามข้อใด
ก. การแสวงหาข้อเท็จจริงและซึ่งผู้มีหน้าที่สืบสวนข้อเท็จจริงได้ปฏิบัติไปตามอำนาจและหน้าที่
ข. การแสวงหาหลักฐานซึ่งผู้มีหน้าที่สืบสวนข้อเท็จจริงได้ปฏิบัติไปตามอำนาจและหน้าที่เพื่อที่จะทราบรายละเอียดแห่งพฤติการณ์และการกระทำนั้นว่าเกิดขึ้นจากการกระทำของข้าราชการตำรวจผู้ใด
ค. การแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซึ่งผู้มีหน้าที่สืบสวนข้อเท็จจริงได้ปฏิบัติไปตามอำนาจและหน้าที่เพื่อที่จะทราบรายละเอียดแห่งพฤติการณ์และการกระทำนั้นว่าเกิดขึ้นจากการกระทำของข้าราชการตำรวจผู้ใดหรือข้าราชการตำรวจผู้ซึ่งมีเหตุอันสมควรสงสัยหรือถูกร้องเรียนหรือถูกกล่าวโทษว่าได้กระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด
ง. ถูกทุก ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ค. การแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซึ่งผู้มีหน้าที่สืบสวนข้อเท็จจริงได้ปฏิบัติไปตามอำนาจและหน้าที่เพื่อที่จะทราบรายละเอียดแห่งพฤติการณ์และการกระทำนั้นว่าเกิดขึ้นจากการกระทำของข้าราชการตำรวจผู้ใดหรือข้าราชการตำรวจผู้ซึ่งมีเหตุอันสมควรสงสัยหรือถูกร้องเรียนหรือถูกกล่าวโทษว่าได้กระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด
ข้อ ๓ การสืบสวนข้อเท็จจริง หมายถึง การแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซึ่งผู้มีหน้าที่สืบสวนข้อเท็จจริงได้ปฏิบัติไปตามอำนาจและหน้าที่ เพื่อที่จะทราบรายละเอียดแห่งพฤติการณ์และการกระทำนั้นว่าเกิดขึ้นจากการกระทำของข้าราชการตำรวจผู้ใดหรือข้าราชการตำรวจผู้ซึ่งมีเหตุอันสมควรสงสัยหรือถูกร้องเรียนหรือถูกกล่าวโทษว่าได้กระทำผิดวินัยหรือไม่ประการใด
6. ในกรณีสืบสวนแล้วเป็นมูลความผิดทางอาญาในความผิดฐานเรียกรับสินบนด้วย ผกก.คลองตัน จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ก. เสนอสำนวนการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้สำนักงานจเรตำรวจตรวจสอบต่อไป
ข. สั่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ค. เสนอรองผู้บังคับการในฐานะผู้บังคับบัญชาถัดขึ้นไปชั้นหนึ่งพิจารณา
ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
7. ผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิคัดค้านกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวน โดยให้ทำเป็นหนังสือแสดงข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการคัดค้านไว้ในหนังสือคัดค้านด้วย จะต้องยื่นต่อบุคคลใด
ก. ประธานกรรมการสืบสวน หรือผู้สั่งให้สืบสวนแล้วแต่กรณี
ข. ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน หรือผู้สั่งให้สืบสวนแล้วแต่กรณี
ค. ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปหนึ่งชั้น
ง. จเรตำรวจ
ตอบ ข. ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวน หรือผู้สั่งให้สืบสวนแล้วแต่กรณี
การคัดค้านให้ทำเป็นหนังสือแสดงข้อเท็จจริงที่เป็นเหตุแห่งการคัดค้านไว้ในหนังสือคัดค้านด้วยว่าจะทำให้การสืบสวนไม่ได้ความจริงและความยุติธรรมอย่างไร การคัดค้านผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวน ให้ยื่นต่อผู้บังคับบัญชาเหนือผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนขึ้นไปชั้นหนึ่ง การคัดค้านกรรมการสืบสวนหรือผู้สืบสวนให้ยื่นต่อผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนภายในเจ็ดวันนับแต่วันรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือคำสั่งให้สืบสวนหรือทราบเหตุแห่งการคัดค้าน
8. การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือสั่งให้ผู้ใดทำการสืบสวน ประธานกรรมการหรือผู้สืบสวน ต้องมีตำแหน่งและยศในระดับใด
ก. ไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา
ข. ถ้าเป็นราชการบริการส่วนกลาง ประธานกรรมการหรือผู้ทำการสืบสวนต้องมียศไม่ต่ำกว่าพันตำรวจตรี
ค. ถ้าเป็นราชการส่วนภูมิภาคต้องมียศไม่ต่ำกว่าร้อยตำรวจเอก
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
ข้อ ๙ การแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือสั่งให้ผู้ใดทำการสืบสวน ประธานกรรมการหรือผู้สืบสวน ต้องมีตำแหน่งและยศไม่ต่ำกว่าผู้ถูกกล่าวหา และนอกจากนั้นถ้าเป็นราชการบริหารส่วนกลางประธานกรรมการหรือผู้ทำการสืบสวนต้องมียศไม่ต่ำกว่าพันตำรวจตรี ถ้าเป็นราชการส่วนภูมิภาคต้องมียศไม่ต่ำกว่าร้อยตำรวจเอก
9. กรณีการสืบสวนข้อเท็จจริงหากสืบสวนไม่เสร็จและขออนุมัติขยายเวลาออกไปอีกหลายครั้งจนครั้งสุดท้าย หากมีความจำเป็นจะขยายระยะเวลสืบสวนออกไปเกินกว่าสามสิบวัน ให้เสนอขออนุมัติต่อใคร
ก. ผู้สั่งแต่งตั้งกรรมการสืบสวน
ข. ผู้บังคับบัญชาที่มอบหมาย
ค. ผู้บังคับบัญชาโดยตรง
ง. ผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือถัดขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง
ตอบ ง. ผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือถัดขึ้นไปอีกชึ้นหนึ่ง
ในการสืบสวนเพิ่มเติมตาม ข้อ ๓๕ (๒) ให้ดำเนินการสืบสวนให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันรับทราบคำสั่ง หากครบกำหนดสามสืบวันแล้วยังสืบสวนไม่แล้วเสร็จให้ขออนุมัติขยายเวลาต่อผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวน ให้ผู้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนหรือผู้สั่งให้สืบสวนพิจารณาอนุมัติได้ตามความจำเป็น แต่ทั้งนี้ห้ามมิให้ขยายระยะเวลาสืบสวนต่อไปอีกเกินกว่าสามสิบวัน หากมีความจำเป็นจะขยายระยะเวลาสืบสวนออกไปเกินกว่าสามสิบวัน ให้เสนอขออนุมัติต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือถัดขึ้นไปอีกชั้นหนึ่ง
